Ads Top

ความแตกต่างระหว่างขวดพลาสติก PE กับ PET

ขวดพลาสติก PE กับ PET ต่างกันอย่างไร







อย่างที่ทราบกันดีว่า พลาสติกเป็นวัสดุที่เรามีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยเรามักพบเห็นพลาสติกถูกนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะขวด ถุง ฟิล์ม หรือ กล่อง
เราจะมาเปรียบเทียบถึงความแตกต่างระหว่างขวดพลาสติก PE กับ PET กันว่า
ขวดพลาสติกที่เราเห็นกันทุกวันนี้ มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และขวดแต่ละชนิดนั้นใช้พลาสติกประเภทไหนกันบ้าง


ขวดPE คืออะไร

PE ย่อมาจาก Polyethylene โพลีเอทิลีน
ซึ่งเป็นพลาสติกที่ถูกนำมาแปรรูปเป็น ถุง,ฟิล์ม,ขวด เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

พลาสติก PE ยังสามารถแบ่งได้อีก 2 ประเภท คือ
1.LDPE (Low density polyethylene) – โพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ นิยมใช้ทำถุง ฟิล์ม
2.HDPE (High density polyethylene) – โพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง

ซึ่งสำหรับขวดพลาสติกPE จะนิยมใช้ HDPE ในการแปรรูป เนื่องจากพลาสติก HDPEจะมีความแข็งแรงและเหนียวกว่าLDPE

ลักษณะขวดPEจะมีสีขุ่นหรือสีขาวน้ำนม ไม่เปราะแตกง่าย และทนความร้อนในระดับที่สูงพอสมควร
คือสามารถทนความร้อนได้ถึง 100 องศา

ขวดชนิดนี้สามารถทนสารเคมี ทนต่อกรดด่างได้ดี จึงมักนำมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่น้ำยาทำความสะอาด แชมพูสระผมหรือขวดน้ำยาปรับผ้านุ่ม และใส่น้ำกลั่น

นอกจากนี้ยังป้องกันการซึมผ่านของความชื้นได้ดี จึงนิยมใช้เป็นขวดนม,น้ำผลไม้ ต่างๆ




ขวดPET คืออะไร

PET ย่อมาจาก Polyethylene Terephthalate หรือที่เคยได้ยินกันว่า ขวดเพท

ขวดจะเป็นขวดใส ป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้ดีจึงสามารถบรรจุน้ำอัดลม ได้ แต่ต้นทุนการผลิตจะสูงกว่า PE
และสามารถทนความร้อนได้ต่ำกว่าPE คือจะเริ่มอ่อนตัวและเสียรูปทรงเมื่อถูกความร้อนที่ระดับ 70องศา

ขวดชนิดนี้เหมาะกับการนำมาใช้บรรจุน้ำดื่ม เนื่องจาก

มีความใส สะอาด สามารถมองเห็นน้ำที่ถูกบรรจุภายในได้ ถูกสุขลักษณะ

มีรสชาติที่ไม่เปลียนแปลงตามมาตรฐานสากล

ป้องกันการซึมผ่านของสารต่างๆจากภายในและภายนอกได้ดี

มีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการขนส่ง

มีความเหนียวแข็งแรง ไม่เปราะแตกง่าย

สามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยแปรรูปเป็นเส้นใยสำหรับทำเสื้อหรือหลอมเป็นเม็ดพลาสติก





ขวดพลาสติก PE กับ PET ขึ้นชื่อว่า เป็นพลาสติก แต่ก็ถูกผลิตจากพลาสติกต่างชนิดกันและยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ผู้ใช้ควรพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของพลาสติกแต่ละชนิดเพื่อให้สามารถเลือกและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


ที่มา

No comments:

Powered by Blogger.