ประเภทของพลาสติก

ในปัจจุบันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักพลาสติก เพราะพลาสติกอยู่คู่กับมนุษย์ มาตั้งแต่ปี 1868 รวมๆ แล้วก็ 150 ปีตั้งแต่มีการกำเนิดพลาสติกขึ้นมา 

พลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นถุงแกง กล่องพลาสติก นั้นส่วนใหญ่ทำมาจากสารไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ใน น้ำมันดิบ ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ

ดังนั้นในยุคน้ำมันแพง ย่อมส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมพลาสติก ที่ต้องการวัตถุดิบจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

หรือกล่าวได้ว่า ต้นทุนการผลิตพลาสติกแปรผันตามราคาน้ำมันนั่นเอง

พลาสติกมีกี่ประเภท

พลาสติกแบ่งออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่มคือ

เทอร์โมเซต (Thermoset) 

คือพลาสติกที่หลอมเหลวทำเป็นรูปทรงได้แค่ครั้งแรกเท่านั้น 

เพราะตอนหลอมเหลวครั้งแรก พันธะจะเชื่อมกัน ทำให้โพลิเมอร์นั้นเกิดเป็นพันธะที่ถาวร  พลาสติกจะแข็ง ถึงแม้จะให้ความร้อนกับพลาสติกชนิดนี้อีก ก็ไม่สามารถทำให้พลาสติกอ่อนตัวได้ 

พูดง่ายๆคือนำมาหลอมรีไซเคิลใหม่ได้ยาก 

พลาสติกชนิดนี้สามารถทนความร้อนสูงได้ในระดับหนึ่ง

แต่ถ้าพลาสติกชนิดนี้ได้รับความร้อนที่มากจนเกินไป จะทำให้พลาสติกแตกไหม้ได้  เช่น จานชามเมลามีน ซิลิโคน ยางที่ผ่านกระบวนการคงรูป เป็นต้น

ส่วนใหญ่พลาสติกที่ต้องฝังกลบเพราะนำมารีไซเคิลได้ยากก็เป็นพวกเทอร์โมเซตติ้งนี่แหละ 

ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายจึงพยายามคิดค้นพัฒนาให้ พลาสติกชนิดนี้สามารถนำกลับมาหลอมเหลวรีไซเคิลใหม่ได้ 

เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic ) หรือที่เรียกกันว่า เรซิน 

คือพลาสติกพอลิเมอร์สายยาวที่โดนความร้อนแล้วสามารถอ่อนตัว นำมารีไซเคิลใหม่ได้ เช่น ถุงช๊อปปิ้งตามห้าง ถุงแกง ถุงใส่ของ ท่อพีวีซี ขวดน้ำ ตะกร้า กะละมังต่างๆ เป็นต้น

ทีนี้เรามาคิดกันว่า เทฟลอนหรือ PTFE นี่เป็น เทอร์โมเซต หรือ เทอร์โมพลาสติก

เทฟลอน มีคุณสมบัติทนความร้อนสูงมาก เหมือนเทอร์โมเซต

แต่อย่างไรก็ตาม เทฟลอนเป็นพอลิเมอร์สายยาว 

และมีจุดที่เริ่มละลาย ( Melting point ) อยู่ที่  327 °C และถึงแม้จะอยู่ที่จุดละลายแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ PTFE อ่อนตัวเหมือนเทอร์โมพลาสติกอื่นๆ แต่ก็สามารถนำมารีไซเคิลได้ 

สรุปแล้ว เทฟลอนหรือ PTFE เป็นเทอร์โมพลาสติกที่สามารถหลอม รีไซเคิลได้ แต่ชอบทำตัวเหมือนเทอร์โมเซตนี่เอง

PTFE มีความพิเศษต่างจากพลาสติกอื่นๆอีกอย่างคือ พันธะทั่วๆไปของพลาสติกจะเป็นไฮโดรคาร์บอน คือ มีไฮโดรเจน กับ คาร์บอน C-H เชื่อมกัน แต่ PTFE เป็น พันธะ คาร์บอน-คาร์บอน ( C-C 607kJ/mol ) และ คาร์บอน-ฟลูออรีน ( C-F 552kJ/mol )ซึ่งแข็งแรงกว่า( C-H 413 kJ/mol )

และราคาปิโตรเลียม ไม่ส่งผลต่อต้นทุนทางตรงในการผลิต PTFE เหมือนพลาสติกอื่นๆ